อุทยานแห่งชาติโยเซมิตตี สถานที่ที่เหล่านักท่องเที่ยวจะได้ยลโฉมความงามของธรรมชาติกันแล้ว ที่นี่ยังกิจกรรมสนุก สุดระทึก กับ ไต่เขา โดมหินแกรนิต ที่เรียกว่า “เสียว” ไม่แพ้สถานที่ใดๆ ในโลกกันเลยทีเดียว
อุทยานแห่งชาติโยเซมิตตี (Yosemite National Park) ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งนี้เนื้อพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,081 ตร.กม. กว้างจรดถึงดินแดนทะเลทรายเนวาดา อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเฉลี่ย 3 ล้านคนต่อปี และได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) โยเซมิตตีเป็นที่รู้จักในชื่อของหน้าผาหินแกรนิต ยอดเขาโดมครึ่งซีก (Half dome) น้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่ง และพื้นที่ประมาณ 89 เปอร์เซ็นต์ ของอุทยานเป็นป่าที่มีสัตว์อาศัยอยู่
หุบเขาโยเซมิตีได้รับการค้นพบโดยนักธรรมชาติวิทยา John Muir ในปี 1868 หลังจากที่เดินเท้าสำรวจธรรมชาติไปเรื่อยจากรัฐเคนตั๊กกี้ ในปี 1867 เมื่อเขาได้พบหุบโยเซมิตี เขาได้นิยามสถานที่แห่งนี้ว่า “ไม่มีวิหารใดที่สร้างจากน้ำมือมนุษย์จะสวยงามเท่า Yosemite หินทุกก้อนล้วนฉาบด้วยชีวิต” ด้วยความรักธรรมชาติในสายเลือด เขาผลักดันให้สถานที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติ และเป็นผลสำเร็จสถานที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของโลก ต่อจากอุทยานแห่งชาติ Yellowstone ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
ยอดเขาโดมครึ่งซีก นี่เอง ที่มีกิจกรรมสุดระทึก ให้นักท่องเที่ยวได้ท้าความกล้ากัน กับกิจกรรมไต่เขาขึ้นไปบนโดมหินแกรนิตแท้ๆ ในระดับความสูงกว่า 1,444 เมตร ซึ่งอดีตในปี 1957 โรแยล ร็อบบินส์ ชาวแคลิฟอร์เนียกับเพื่อนร่วมทีม ใช้เวลาถึง 5 วัน ในการปีนฮาล์ฟโดมได้เป็นครั้งแรก โดยใช้ลิ่มเหล็กตอกเข้าไปในเนื้อหินเพื่อร้อยเชือกรั้งตัวแล้วค่อยๆ ไต่ขึ้นไปถึงยอดเขาจนเป็นผลสำเร็จ ต่อมาจึงมีนักพิชิตยอดเขามากมายไปท้าทายความกล้าที่ฮาล์ฟโดมลูกนี้ ทั้งในแนวโค้งซึ่งเป็นส่วนครึ่งวงกลม หรือแนวตั้งซึ่งเป็นส่วนที่ดูเหมือนโดนผ่าครึ่ง แต่ทว่าการปีนในแนวตั้งนั้นค่อนข้างจะอันตรายมาก มีผู้เสียชีวิตจากการปีนในลักษณะอยู่จำนวนหนึ่ง
แต่ว่าในปัจจุบันนี้การเดินทางขึ้นยอดเขาฮาล์ฟโดม ไม่ต้องใช้เวลามากอย่างในอดีตแล้ว เพราะมีการขึงสายเคเบิ้ลเป็นทางเดิน พร้อมวางที่พักเท้าให้เป็นขั้นบันได ให้นักท่องเที่ยวค่อยๆ ไต่ ค่อยๆ เกาะ เพื่อพาตัวเองให้ไปถึงยอดเขา แต่ถึงกระนั้นก็ยังเหนื่อยหอบอยู่ดี เพราะฉะนั้นหากจะไปพิชิตยอดนี้จริงๆ ฟิตร่างกายเตรียมพร้อมไว้ก่อนเลยล่ะ ถ้านักท่องเที่ยวสามารถพิชิตขึ้นไปบนยอดเขาแล้ว จะมีพื้นที่ราบให้นักท่องเที่ยวสามารถพักเหนื่อยได้ พร้อมกับมีวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มองได้ 360 องศารอบอุทยานฯ ให้หายเหนื่อยถือเป็นรางวัลตอบแทนความพยายาม รวมไปถึงความกล้าของเหล่านักท่องเที่ยวอีกด้วย